พื้นที่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่มีความเจริญมั่งคั่งอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของทุกสิ่งในระดับภูมิภาค โดยเรื่องที่เราจะหยิบมาพูดคุยนั้นเกี่ยวกับสิ่งที่มาคู่กับความเป็นเมืองใหญ่อย่าง คนไร้บ้าน ซึ่งในทุกๆ ปี ได้มีคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่ทำให้พวกเขามาอาศัยอยู่ตามสถานที่สาธารณะมาจากปัญหาครอบครัว การทำความผิดในอดีต การตกงาน ฯลฯ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เพิ่มขึ้น และอาจจะมีสักวันที่เป็นตัวเราต้องไปอยู่ตรงนั้นก็เป็นได้ บ้านเตื่อมฝันจึงถือกำเนิดขึ้นระหว่างความร่วมมือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเป็นที่พักพิงของพี่น้องยามไร้ที่อยู่อาศัย ณ ช่วงเวลาหนึ่ง
หนึ่งในผู้ให้กำเนิดบ้านเตื่อมฝัน อูร-วิเชียร ทาหล้า คือลูกศิษย์คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาเป็นเกษตรกรในเชียงใหม่ และเริ่มได้รับโอกาสร่วมงานอาสาด้านสิ่งแวดล้อมครั้งแรกกับองค์กรไม่แสดวงหากำไรอย่าง NGO เกิดการปรับเปลี่ยนความคิดครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องจากทั้งชีวิตก่อนหน้านี้อูรเรียนด้านวิทยาศาสตร์มาตลอด เหตุต้องคู่กับผล คำถามต้องมีคำตอบที่เหมือนกัน แต่งานสายสังคมผลลัพธ์เปลี่ยนไปตามสถานการณ์เสมอ จนกระทั่งอูนได้ลงพื้นที่ในจังหวัดตากก็พบเห็นเหตุการณ์สงครามเล็กๆ ระหว่างไทย และเมียนมาร์ ทำให้ผู้คนต้องดิ้นรนหาทางหนีเพื่อเอาชีวิตรอด จนกลายเป็นกลุ่มคนไร้บ้านในที่สุด เรื่องนี้ทำให้อูรได้คิดอยากผลักดันช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ให้ออกมาจากจุดตรงนั้น จึงตัดสินใจย้ายจากงานสิ่งแวดล้อม สู่ปัญหาคนไร้บ้านนั่นเอง
สร้างเพื่อพัฒนาศักยภาพพี่น้อง อาจจะมีคนเข้าใจว่าจุดประสงค์หลักของบ้านเตื่อมฝันคือการเปิดบ้านให้เป็นสถานที่พักอาศัย แต่ที่แท้จริงของบ้านเตื่อมฝันเป็นการสร้างสถานที่ปักหลัก เพื่อพัฒนาตนเอง และสมารถกลับเข้าสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพมากที่สุด ทางทีมบ้านเตื่อมฝันได้เลือกใช้ทั้งหมด 4 วิธี ดังนี้ หนึ่ง-การจัดการที่อยู่อาศัยให้เป็นจุดตั้งหลัก อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย เพราะเราเชื่อว่าตราบใดที่พี่น้องไร้บ้านได้พักอยู่ภายในสถานที่เล่านี้ เมื่อได้พักแล้ว จะทำให้เขาได้คิดต่อว่าจะทำอย่างไรต่อกับชีวิตตนเองต่อไป และเหล่าพี่น้องทุกคนต่างมีวิธีดิ้นรนต่างๆ เพื่อหาทางใช้ชีวิตต่อ ทางเราจึงเรียกเก็บเงินบางส่วนจากผู้ที่พักอาศัยในบ้านเตื่อมฝันแห่งนี้ เนื่องจากทางเรามองเห็นว่าการให้พักอาศัยโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทำให้เกิดการสนับสนุนการช่วยเหลืออย่างไม่มีสิ้นสุด สอง-สวัสดิการด้านต่างๆ ในที่นี้ขอพูดถึงส่วนของการรักษาพยาบาล เนื่องจากเวลาที่มีอาการเจ็บป่วยขึ้นมา พี่น้องคนไร้บ้านมักเลือกที่จะให้ร่างกายรักษาเองตามกลไกธรรมชาติ ซึ่งสาเหตุหลักของเรื่องเหล่านี้คือรายได้น้อย ทำให้สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว ทางทีมเราเห็นว่า หากจัดระบบสวัสดิการขึ้นมา จะได้รับการรักษาที่เร็ว ร่างกายฟื้นฟูไว สามารถกลับไปทำงานต่อได้เร็ว สาม-การพัฒนาคุณภาพชีวิต เพราะทีมเราเชื่อว่าเหล่าพี่น้องมีศักยภาพในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการตัวเองให้ถูกต้องตามเป้าหมายโดยที่ไม่กำหนดกฎเกณฑ์ว่าจะทำได้แค่ไหน โดยขึ้นอยู่กับการเลือก ตัดสินใจของเหล่าพี่น้องด้วยเช่นกัน สี่-การสื่อสาร สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบันเพราะมนุษย์ต้องมีการติดต่อสื่อสารกัน สำหรับบ้านเตื่อมฝันที่มีสมาชิกมาจากต่างที่ต่างปัญหามากมาย แล้วนับว่าขาดไม่ได้เลย การสื่อสารช่วยให้เหล่าพี่น้องสามารถเข้าสังคมได้ดี และสามารถช่วยเหลือกันด้วยความเข้าใจกันมากขึ้น โดยจุดประสงค์นี้ไม่ใช่เฉพาะคนในบ้านเท่านั้น ยังรวมถึงพี่น้องที่อาศัยตามที่สาธารณะต่างๆ โดยรวมของทั้งสี่ที่กล่าวไปนี้มีจุดประสงค์เพื่อดึงศักยภาพของพี่น้องออกมาให้ทุกคนได้เห็น แม้ว่าจะมีคนที่ไม่ได้รรับการศึกษา จนทำให้มีทัศนคติที่แตกต่างออกไปบางครั้ง เพื่อหวังว่าพี่น้องของเราจะถูกยอมรับในสังคม
บ้านเตื่อมฝันมีกิจกรรมอื่นอีกไหม กิจกรรมของบ้านเตื่อมฝันโดยหลักแล้วจะเป็นการสำรวจพูดคุยพี่น้องไร้บ้านที่อาศัยอยู่ในสถานที่สาธารณะ ทุกๆ วันมีโอกาสที่จะมีคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากเราพบคนมาใหม่ได้เร็วแค่ไหน โอกาสที่จะพากลับเข้าสู่สังคมเหมือนเดิมก็มากขึ้น วิธีการจะเป็นถามไถ่ถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เขาพบเจอในปัจจุบัน รวมถึงชักชวนให้มาอยู่บ้าน เตื่อมฝันบ้าง แต่บางคนก็มาบางก็ปฏิเสธ ซึ่งจะมีการแบ่งทีมบ้านเตื่อมฝัน ผู้อยู่อาศัย เป็นหลัก บางครั้งได้มีจิตอาสา โดยสถานที่พูดคุยอยู่บริเวณท่าแพ ลงพื้นที่สัปดาห์ละ 3 วันคือ จันทร์ พุธ และศุกร์ ส่วนกิจกรรมใหญ่ ณ ปัจจุบันนับได้ว่ายังไม่มีในเร็ว ๆ นี้ เพราะสถานการณ์โควิดทำให้ทุกอย่างไม่สะดวกมากนัก จึงได้ข้อสรุปว่าเลื่อนออกไปเสียดีกว่า คุณอูรได้เรียนรู้อะไรจากที่ทำมาทั้งหมด? “ลดความคาดหวังในตัวคนอื่นครับ” นี่คือสิ่งที่คุณอูรบอกมา โดยให้เหตุผลว่าปกติคนเราชอบก็คาดหวังในตัวคนอื่นอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าจะได้รับสิ่งตอบแทนเป็นอะไร และเมื่อเค้าจะทำได้ไม่ตรงกับความต้องการของเรา จนตัวเราเองรู้สึกเสียใจ พอเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เรียนรู้ได้ว่าเราบังคับชีวิตใครไม่ได้หรอก ทุกคนบังคับได้แค่ชีวิตตัวเราแค่นั้น อยากฝากอะไรให้ทุกคน “อย่างแรกคือขอขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุน ให้ความสนใจกับบ้านเตื่อมฝัน หรือพี่น้องไร้บ้าน และอย่างที่สองคืออยากขอให้โอกาสให้พี่น้องของเรา เพราะสถานะไร้บ้านมันแค่ชั่วคราวเพียงแค่นั้น รวมถึงทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ ได้ จึงอยากให้ทุกคนได้รับความเท่าเทียมในฐานะเพื่อนมนุษย์คนนึง” บ้านเตื่อมฝันไม่รับบริจาคเงินทุกชนิด แต่รับบริจาคเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจบ้านเตื่อมฝัน กลุ่มคนไร้บ้านเชียงใหม่ |