จดหมายถึง ชัยภูมิ ป่าแส นลธวัช มะชัย : เขียน ถึง จะอุ๊ เพื่อนรัก
แน่นอนผมเขียนจดหมายฉบับนี้ทั้งที่รู้ดีว่านายจะไม่ได้อ่าน แต่ทำอย่างไรได้ ถ้าไม่เขียนมันออกมา ความรู้สึกคงข้นคลักอยู่ในใจ อยากเล่าสู่กันฟังเหมือนตอนนายมีชีวิต รู้มั้ย? สามปีเจ็ดเดือนที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นเยอะแยะมากมาย มากเกินกว่านายจะจินตนาการได้แน่ ขนาดคนที่ยังต้องมีชีวิตอยู่ต่ออย่างผมยังไม่เคยจินตนาการคิดฝันว่าบ้านเมืองของเราจะตกต่ำแบบนี้ นายอาจจะกำลังหัวเราะอยู่ก็ได้ที่ออกเดินทางไปก่อน คนข้างหลังนี่สิ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้อง “สู้” อย่างเดียวเท่านั้น ศาลแพ่งยกฟ้องที่แม่นาปอยฟ้องกองทัพบกกับทหารวิสามัญฆาตกรรมนายแล้วนะ อืม…ยากจะอธิบาย แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ จะเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นยังเรียบเรียงออกมายากเลย ไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกอะไรหรอก แค่ความจริงทั้งหมด ยังถูกตัดเป็นตอนๆ ช่วงๆ หม่นๆ ทึมๆ กระบวนการยุติธรรมตัดแปะทำให้ความเป็นมนุษย์ขาดวิ่นไปเยอะเลย
มีคำถามมากมายที่อยากถาม ไม่รู้ว่าต้องถามนาย ถามตัวเอง ถามสังคม หรือต้องถามใครกันแน่… นายรู้มั้ยว่าในศาลแพ่งรัชดาเกิดอะไรขึ้น นายรู้มั้ย? ที่เกิดเหตุวันนั้นมีกล้องวงจรปิดอยู่ 9 ตัว แต่เราไม่เคยได้ดูภาพพวกนั้นเลย นายรู้มั้ย? เพื่อนอีกคนที่นั่งในรถมาด้วยกันกับนายวันเกิดเหตุ ไม่ถูกดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดเหมือนนายนะ ถ้าในรถมียาเสพติดจริง หรือมีของกลาง ทำไมคนหนึ่งตาย อีกคนหนึ่งไม่ถูกดำเนินคดี นายรู้มั้ย? คำให้การของจำเลยที่เป็นทหารน่าเชื่อถือในศาล เพียงเพราะตั้งสมมติฐานไว้แล้วว่าเป็นชาวเขาค้ายาเสพติด ทำผิดกฏหมาย นายรู้มั้ย? ก่อนหน้านี้ศาลพิพากษาคดีชาวลีซอ ให้กองทัพบกชดเชยค่าเสียหายการตายที่ถูกวิสามัญฆาตกรรมโดยทหารด่านรินหลวง หน่วยเดียวกันกับที่วิสามัญฆาตกรรมนายนั่นแหละ นายรู้มั้ย? คดีนั้นเกิดเหตุขึ้นในระยะเวลาห่างกับคดีนายแค่ไม่ถึงสองเดือน สภาพเหตุการณ์แทบจะเหมือนกันคือระบุว่าพยายามต่อสู้และมีระเบิดในมือ ต่างกันแค่ตรงที่คดีของนายเกิดที่ด่านตรวจเลย ท่ามกลางประจักษ์พยานมากมาย แต่หลักฐานสำคัญกลับไม่เคยได้ใช้พิสูจน์ความจริง นายรู้มั้ย? ต้องมีหญิงลาหู่คนหนึ่งถูกตั้งข้อหาว่าส่งยาเสพติดให้นายก่อนเกิดเหตุ จนต้องติดคุก 1 ปี แล้วศาลจังหวัดเชียงใหม่ตรวจสอบพบว่าไม่มีหลักฐาน เลยปล่อยตัวออกมา เธอติดคุกฟรีๆ ไปสามร้อยกว่าวัน อ้อ…นายรู้มั้ย? กล้องวงจรปิดที่ว่ามี 9 ตัว มันใช้งานได้จริง 6 ตัว แต่ศาลบอกพวกเราว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหารได้ส่งกล้องให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ ไม่พบหลักฐานการเปลี่ยนแปลง และไม่พบภาพบันทึกเหตุการณ์วันที่ 17 ภาพวันที่นายถูกยิงหายไปเฉยเลย นายรู้มั้ย? เราจะยื่นอุทธรณ์กันต่อนะ นายรู้มั้ย? ความตายของนาย ทำให้เกิดคำถามมากมาย แล้ว…นายรู้มั้ย? เพื่อนๆ กำลังคิดถึงนาย
ตอบคำถามผมว่า…ไม่รู้…ทุกข้อเลยก็ได้ หลายอย่างปรากฏตัวหลังจากความตายพานายออกเดินทางไกลไปแล้ว
ปลายตุลาคม ลมหนาวใกล้เข้ามาอีกหน… กองไฟที่เคยถูกจุดเพื่อให้ความอบอุ่นในบ้าน ไม่เคยเหมือนเดิมอีกเลยหลังจากนายไม่อยู่ หมูบ้านที่นายคุ้นชินเปลี่ยนไปสักพักแล้ว เด็กๆ ที่เต้นแจ่โกด้วยกันในโบสถ์กลายเป็นหนุ่มสาวไปบ้างแล้ว ตอนนี้สังคมกำลังค่อยๆ เปลี่ยนผ่าน เสาหลักทุกเสากำลังถูกสั่นคลอน เสาแห่งศาลและความยุติธรรมก็ไม่เว้น เรื่องของนายเป็นฟืนกองใหญ่ มันสามารถนำมาซึ่งความอบอุ่น ไม่ก็เปลวไฟก้อนมหึมา ลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังพัดมา ไม่ว่าจะพัดไปทางไหนต่อ ความยุติธรรมยังคงต้องดำเนินต่อไป คำพิพากษาของศาลแพ่งที่ว่า “จำเลยเมื่อไม่ทำละเมิดเกินกว่าเหตุ จึงไม่จำเป็นต้องชดใช้การทำละเมิดต่อโจทก์ พิพากษายกฟ้อง” อาจเป็นใบอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐฆ่าประชาชนรายต่อๆ ไปได้ เราคงไม่อยากให้สังคมเปลี่ยนไปในทิศทางนี้แน่ ?
“ฉันปวดใจมาก เมื่อลูกตาย ปวดใจมากขึ้นอีก ลูกตายไปแล้ว ยังถูกทำให้พ่ายแพ้ซ้ำอีก” แม่นาปอยพูดประโยคนี้หน้าศาลด้วยแววตานิ่งเงียบ แต่คงตะโกนอยู่ในใจแม่มายาวนาน มันถึงทำให้ก้องอยู่ในหัวผมมาหลายวันเช่นนี้ นายคงไม่เคยคิดละสิว่าแม่ของนายจะต้องลงจากดอยมาทำอะไรแบบนี้ที่กรุงเทพฯ นึกแล้วก็ตลกดี หลายปีที่รู้จักกัน ไปเที่ยวบ้านนายที่กองผักปิ้ง อำเภอเชียงดาวตั้งหลายครั้ง ผมได้เจอแม่นาปอยบนดอยน้อยกว่าเจอในเมืองเสียอีก และทุกครั้งที่เจอมักเป็นศาลไม่ก็งานรำลึกถึงนาย ถ้านายยังอยู่ นายจะกำลังทำอะไรอยู่นะตอนนี้? เป็นนักดนตรี? เป็นนักพัฒนาชุมชน? เป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ ทำกิจกรรม? เป็นนักทำหนัง? หรือกำลังเรียนหนังสือเพื่อทำตามความฝันอยู่… ความฝันของนาย ยังเหมือนเดิมอยู่มั้ย? จำคืนที่ผมไปแสดงละครที่หมู่บ้านกองผักปิ้งได้มั้ย หลังจบงานเรานั่งคุยกันเกือบถึงเช้า กองไฟ ลมหนาว กีต้าร์ และบทสนทนาคืนนั้น มันยังเป็นวัตถุดิบให้นายฝันอยู่มั้ย? เด็กๆ จะมีสัญชาติเพิ่มขึ้นมั้ย? คุณภาพชีวิตของทุกคนในหมู่บ้านดีขึ้นบ้างรึเปล่า? อันที่จริง ผมไม่อยากคาดหวังอะไรกับความใฝ่ฝันของนายเลย ความคาดหวังไม่ควรอยู่บนบ่าใครคนเดียวเท่านั้น แต่จะให้ผมทำอย่างไรได้ ก็ความใฝ่ฝันของนายมันมีคนอื่นๆ อยู่เต็มไปหมด ยิ่งคิดถึงยิ่งเจ็บปวด ถ้านายยังอยู่ จะทำอะไรอยู่เหรอตอนนี้? พี่ตั้ม ดินสอสี บอกว่า “การฟ้องแพ่งครั้งนี้เป็นหนทางพิสูจน์การกระทำเกินกว่าเหตุ ภายใต้กฏอัยการศึกที่ใช้กำลังทหารดูแลกำกับกลุ่มคนชาติพันธุ์ชายแดน โดยมีความตายของเด็กหนุ่มลาหู่คนหนึ่งเป็นเหยื่อในท่ามกลางผู้เสียหายอีกมากมาย” ผมเห็นตรงกัน นี่เป็นการเดินทางที่โคตรเจ็บปวด ความตายออกเดินทางล่วงไปข้างหน้าก่อนแล้ว ความยุติธรรมกำลังเดินสวนไปอีกทาง คิดถึงนายจังเลยจะอุ๊…
แล้วเจอกันนะ…เพื่อนรัก ตุลาคม 2563 |
Related Posts
สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) : ชีวิต เรื่องราว ความทรงจำ และการเปลี่ยนแปลง
เสียงตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง… ทุ่งนา และทิวเขาที่อยู่ไกลออกไป แสงแดดอ่อนๆยามรุ่งสาง สายลมหนาวพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างของรถไฟชั้นสาม ผู้โดยสารเบาบางลงบ้าง เพราะต่างคนต่างลงตามสถานีปลายทางของตนเอง … เรื่องราวรถไฟยังคงดำเนินต่อไป ย้อนกลับไปสิบกว่าชั่วโมงที่แล้ว ก่อนที่ใบหน้า และร่างกายจะปะทะอุณหภูมิหนาวเย็น ทุกอย่างเริ่มต้นที่ หัวลำโพง ในวันนี้ เรื่องราวของหัวลำโพงกำลังจะเปลี่ยนไป หัวลำโพงยังคงอยู่ แต่บทบาทในทางการเดินทาง อาจกำลังจบลง … หัวลำโพงเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และความหวังมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว เก้าอี้ที่โถงพักคอยของหัวลำโพงรองรับผู้คนที่หลากหลายมานาน แต่ละคนต่างมีจุดมุ่งหมายในการเดินทางแตกต่างกันไปทั้งสิ้น กลุ่มเพื่อนที่นัดกันไปแสวงหาประสบการณ์ชีวิต ชายวัยชราซึ่งเพิ่งเสร็จจากการพบแพทย์กำลังจะกลับภูมิลำเนา คุณพ่อซึ่งเข้าเมืองกรุงเพื่อเยี่ยมลูกชาย หรือแม้กระทั่งพระภิกสุสงฆ์ และอีกมากมาย สถานีรถไฟหัวลำโพงมีความหลากหลายของเรื่องราวและความทรงจำ … ในการทำให้เรื่องราวของแต่ละคนดำเนินไปอย่างไม่ติดขัด มีผู้อยู่เบื้องหลังมากมาย เพียงแค่เดินเข้ามาในตัวสถานีไปจนถึงตู้รถไฟ สามารถพบเจอได้ตั้งแต่พนักงานจำหน่ายตั๋วซึ่งกำลังตอบคำถามผู้โดยสาร พนักงานทำความสะอาดที่ชานชาลากำลังลากอุปกรณ์คู่ใจ พนักงานซึ่งกำลังเข็นรถเข็นขนผ้าห่ม พนักงานเดินรถกำลังเรียกผู้โดยสารให้ขึ้นรถไฟ และอื่นๆอีกมากมายซึ่งอยู่เบื้องหลัง และล้วนมีส่วนสำคัญ ในวันที่สถานีรถไฟบางซื่อกำลังมีบทบาทมากขึ้น หัวลำโพงกำลังจะเริ่มค่อยๆถอยออกมาให้น้องใหม่ได้เฉิดฉายแทน หากพูดกันในเชิงการคมนาคม การย้ายสถานีหลักไปที่สถานีบางซื่อก็อาจจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าในการคมนาคมที่สะดวก การเปลี่ยนถ่ายรูปแบบของการเดินทางควรเป็นไปอย่างสะดวก กล่าวคือ ควรมีการสร้าง HUB ของการเดินทางขึ้นมา คือที่ๆเดียวสามารถเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการเดินทางได้อย่างครอบคลุม ทั้งทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ […]
พราน มณีรัตน์
December 18, 2021Behind The Scene Editorial Staff
June 7, 2021สรุป พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แบบเข้าใจง่ายที่สุดโดยคนสตาร์ทอัพ เพื่อคนสตาร์ทอัพและเจ้าของธุรกิจ
ธุรกิจขนาดเล็ก กับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่จะมีผู้ประกอบการกี่รายที่ทราบว่า การเก็บข้อมูลพนักงานในธุรกิจของตัวเองก็เข้าไปเกี่ยวข้องกับ PDPA แล้ว ยิ่งด้วยยุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ผู้ประกอบการต้องถามตัวเองว่าจะนำธุรกิจไปในทิศทางใด ถ้าวันนี้คำตอบคือการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ การนำข้อมูลลูกค้าเข้ามาพัฒนาสินค้า และบริการเพื่อให้ตรงความต้องการของลูกค้า ออกแบบประสบการณ์ใหม่ๆให้ลูกค้าประทับใจ สร้างช่องทางการขายบนโลกออนไลน์ โฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย ถ้าคำตอบของคุณตรงกับสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น คุณยิ่งจำเป็นต้องศึกษา PDPA ให้เข้าใจ PDPA (Personal Data Protection Act) หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.๒๕๖๒ ให้นิยามข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) ตามที่ได้ให้ความหมายไว้ใน พ.ร.บ. ฉบับนี้ คือ “ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม” ยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนขึ้นข้อมูลส่วนบุคคลแบ่งได้เป็น 3 ประเภทได้แก่ หนึ่ง-ข้อมูลที่ยืนยันตัวตนได้โดยทันที (Linked Information), สอง-ข้อมูลที่ยืนยันตัวตนได้เมื่อนำข้อมูลมาประกอบกัน (Linkable Information) และสาม-ข้อมูลที่ยืนยันตัวตนไม่ได้ (Non-PII) หรือ Anonymous หลายธุรกิจที่มีเว็บไซต์และทำการตลาดออนไลน์ อาจจะคุ้นกันดีกับ Google Analytics, Facebook Pixel […]