นี่ไม่ใช่การระบาดใหญ่หรือ Pandemic ครั้งแรกของโลก ประวัติศาสตร์มนุษยชาติได้เอาตัวรอดจากโศกนาฏกรรมเหล่านี้มานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคจากธรรมชาติที่คร่าชีวิตบุคคลอันเป็นที่รักไปมากมาย จนถึงเชื้อที่ได้ผลักดันเราให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด รวมถึงครั้งนี้ที่เป็นการระบาดใหญ่ระดับโลกครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี ข้อแตกต่างระหว่างการระบาดของ COVID-19 กับการระบาดครั้งอื่นคือยุคสมัยในการระบาด ที่ปัจจุบันเรียกว่ายุคดิจิทัล หรือยุคสมัยแห่งวิทยาการข้อมูล เราอยู่ในยุคที่ประชากรส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ จากข้อมูลของเว็บไซต์ Statista ระบุว่าประชากรมากกว่าครึ่งของคนทั่วโลกย้ายจากยุคอนาล็อกเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้บุคคเหล่านี้เราถึงทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้สามารถเข้าถึงข้อมูลทั่วทั้งโลกได้ง่ายๆ จากการพิมพ์หาใน Google ความสามารถนี้เป็นประโยชน์อย่างมากให้กับนักวิจัยและนักวิชาการทั่วโลก เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปให้ห้องสมุดแล้วนั่งงมหนังสือเป็นกองอีกแล้ว เราเพียงกดค้นหาคำไม่กี่คำ ก็มีข้อมูลเป็นล้านให้เลือกบนหน้าจอ วิธีพื้นฐานในการใช้ต่อกรกับสิ่งที่เราไม่รู้นั้นมีชื่อว่า Trial and Error หรือการลองผิดลองถูก ซึ่งกินเวลาอย่างมากและสิ้นเปลืองทรัพยากรอย่างไม่จำเป็น อุปสรรคนี้ทำให้นักวิทยาศาตร์ตั้งคำถามว่าถ้าหากเราไม่ลงมือทำแล็ปจริง แต่เปลี่ยนเป็นการจำลองบนคอมพิวเตอร์จะเป็นอย่างไร? งานวิจัยสาขา Computational Science จึงเกิดขึ้น นักวิจัยได้ใช้ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาและวิทยาการด้านคอมพิวเตอร์ เช่น Artificial Intellegence (AI) ผนวกกันเป็นงานจำลองทางวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันหลายงานวิจัยได้ใช้ศาสตร์ด้านนี้ในการลดเวลาในการทดลองและตัดเรื่องการใช้ทรัพยากรที่ฟุ่มเฟือย เนื่องจากเราทำทุกอย่างบนคอมพิวเตอร์ก่อนทำการทดลองจริง ซึ่งอันที่จริงแล้วมีการคิดค้นศาสตร์ด้านนี้มีมากว่า 20 ปีแล้ว แต่งานสาขานี้มักจะโดนมองข้ามเนื่องจากการจำลองมักจะถูกมองว่ามันไม่ใช่การทดลองจริง การจำลองไม่อาจครอบคลุมปัจจัยทั้งหมดในธรรมชาติได้
จนมาถึง COVID-19 ที่งานด้านนี้ได้เฉิดฉายให้ทุกคนได้เห็นกับการจำลองโครงสร้างและการแพร่กระจายของเชื่อดังกล่าว และทั้งโลกก็ได้เห็นว่าวิทยาศาสตร์ทำให้เรามาไกลขนาดไหน ชื่อเต็มของไวรัส Covid-19 คือ SARS-CoV-2 ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นคำว่า SARS เพราะเมื่อช่วงปี 2002-2004 มีการระบาดของไวรัส SARS-Co-V สายพันธุ์แรกขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจึงมีฐานข้อมูลอยู่พอสมควร เมื่อนักวิทยาศาสตร์ทราบว่าไวรัสชนิดใหม่นี้พัฒนามาจาก SARS-CoV ทำให้เรามีแต้มต่อในการรับมือ และด้วยวิทยาการข้อมูลทำให้เราคาดการณ์และหาทางออกได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น ในด้านระบาดวิทยา เราได้พยากรณ์แน้วโน้มการติดเชื้อ COVID-19 ในแต่ละประเทศทั่วโลกและได้ทราบว่าหากเรากักตัวจะทำให้ยอดการติดเชื้อลดลงจนอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และในด้านไวรัสวิทยา เราสามารถจำลองแท่งโปรตีนที่อยู่บนไวรัส แท่งโปรตีนนี้เป็นกุญแจสำคัญในการเปิดทางให้ไวรัสเข้าไปอยู่ในเซลล์ร่างกายเราเพื่อขยายจำนวน เราใช้โมเดลที่ได้มาจำลองการยับยั้งโปรตีนด้วยตัวยาต่างๆ ที่เรียกว่า Protein Docking ซึ่งวิธีนี้ทำให้เราทราบว่ายาที่เรามีอยู่นั้นตัวไหนสามารถใช้เพื่อช่วยในการต้านเชื้อได้บ้าง รวมไปถึงการใช้ข้อมูลโปรตีนนี้ไปพัฒนาเป็นวัคซีนอย่างรวดเร็ว เป็นที่มาของนวัตกรรม mRNA vaccine ที่มีการผลิตครั้งแรกจากบริษัท Pfizer
Computational Science จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการทำให้เราผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้ แม้ว่าสถาณการณ์การระบาดของ COVID-19 ในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยยังคงไม่ดีนัก การมีอยู่ของวิทยาการเหล่านี้ช่วยเร่งให้เราผ่านไปได้ไวขึ้น การะบาดครั้งนี้ทำให้เห็นว่าที่จริงแล้วเราสามารถยับยั้งเหตุการณ์ได้ไวกว่านี้มาก แต่มนุษย์เรายังคงมีความเลินเล่อและไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ควรจะทำ เรายังคงมีสงคราม การแบ่งแยก คอรัปชั่น และความเหลื่อมลำในแทบจะทุกหย่อมหญ้า ถ้าหากโลกเรายังคงเป็นแบบนี้อยู่ วิกฤติครั้งหน้าก็ยังคงมีญาติผู้เสียชีวิตที่ต้องเสียน้ำตาอย่างไร้ซึ่งเหตุผล อ้างอิง
|
Related Posts
สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) : ชีวิต เรื่องราว ความทรงจำ และการเปลี่ยนแปลง
เสียงตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง… ทุ่งนา และทิวเขาที่อยู่ไกลออกไป แสงแดดอ่อนๆยามรุ่งสาง สายลมหนาวพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างของรถไฟชั้นสาม ผู้โดยสารเบาบางลงบ้าง เพราะต่างคนต่างลงตามสถานีปลายทางของตนเอง … เรื่องราวรถไฟยังคงดำเนินต่อไป ย้อนกลับไปสิบกว่าชั่วโมงที่แล้ว ก่อนที่ใบหน้า และร่างกายจะปะทะอุณหภูมิหนาวเย็น ทุกอย่างเริ่มต้นที่ หัวลำโพง ในวันนี้ เรื่องราวของหัวลำโพงกำลังจะเปลี่ยนไป หัวลำโพงยังคงอยู่ แต่บทบาทในทางการเดินทาง อาจกำลังจบลง … หัวลำโพงเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และความหวังมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว เก้าอี้ที่โถงพักคอยของหัวลำโพงรองรับผู้คนที่หลากหลายมานาน แต่ละคนต่างมีจุดมุ่งหมายในการเดินทางแตกต่างกันไปทั้งสิ้น กลุ่มเพื่อนที่นัดกันไปแสวงหาประสบการณ์ชีวิต ชายวัยชราซึ่งเพิ่งเสร็จจากการพบแพทย์กำลังจะกลับภูมิลำเนา คุณพ่อซึ่งเข้าเมืองกรุงเพื่อเยี่ยมลูกชาย หรือแม้กระทั่งพระภิกสุสงฆ์ และอีกมากมาย สถานีรถไฟหัวลำโพงมีความหลากหลายของเรื่องราวและความทรงจำ … ในการทำให้เรื่องราวของแต่ละคนดำเนินไปอย่างไม่ติดขัด มีผู้อยู่เบื้องหลังมากมาย เพียงแค่เดินเข้ามาในตัวสถานีไปจนถึงตู้รถไฟ สามารถพบเจอได้ตั้งแต่พนักงานจำหน่ายตั๋วซึ่งกำลังตอบคำถามผู้โดยสาร พนักงานทำความสะอาดที่ชานชาลากำลังลากอุปกรณ์คู่ใจ พนักงานซึ่งกำลังเข็นรถเข็นขนผ้าห่ม พนักงานเดินรถกำลังเรียกผู้โดยสารให้ขึ้นรถไฟ และอื่นๆอีกมากมายซึ่งอยู่เบื้องหลัง และล้วนมีส่วนสำคัญ ในวันที่สถานีรถไฟบางซื่อกำลังมีบทบาทมากขึ้น หัวลำโพงกำลังจะเริ่มค่อยๆถอยออกมาให้น้องใหม่ได้เฉิดฉายแทน หากพูดกันในเชิงการคมนาคม การย้ายสถานีหลักไปที่สถานีบางซื่อก็อาจจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าในการคมนาคมที่สะดวก การเปลี่ยนถ่ายรูปแบบของการเดินทางควรเป็นไปอย่างสะดวก กล่าวคือ ควรมีการสร้าง HUB ของการเดินทางขึ้นมา คือที่ๆเดียวสามารถเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการเดินทางได้อย่างครอบคลุม ทั้งทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ […]
พราน มณีรัตน์
December 18, 2021สรุป พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แบบเข้าใจง่ายที่สุดโดยคนสตาร์ทอัพ เพื่อคนสตาร์ทอัพและเจ้าของธุรกิจ
ธุรกิจขนาดเล็ก กับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่จะมีผู้ประกอบการกี่รายที่ทราบว่า การเก็บข้อมูลพนักงานในธุรกิจของตัวเองก็เข้าไปเกี่ยวข้องกับ PDPA แล้ว ยิ่งด้วยยุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ผู้ประกอบการต้องถามตัวเองว่าจะนำธุรกิจไปในทิศทางใด ถ้าวันนี้คำตอบคือการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ การนำข้อมูลลูกค้าเข้ามาพัฒนาสินค้า และบริการเพื่อให้ตรงความต้องการของลูกค้า ออกแบบประสบการณ์ใหม่ๆให้ลูกค้าประทับใจ สร้างช่องทางการขายบนโลกออนไลน์ โฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย ถ้าคำตอบของคุณตรงกับสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น คุณยิ่งจำเป็นต้องศึกษา PDPA ให้เข้าใจ PDPA (Personal Data Protection Act) หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.๒๕๖๒ ให้นิยามข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) ตามที่ได้ให้ความหมายไว้ใน พ.ร.บ. ฉบับนี้ คือ “ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม” ยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนขึ้นข้อมูลส่วนบุคคลแบ่งได้เป็น 3 ประเภทได้แก่ หนึ่ง-ข้อมูลที่ยืนยันตัวตนได้โดยทันที (Linked Information), สอง-ข้อมูลที่ยืนยันตัวตนได้เมื่อนำข้อมูลมาประกอบกัน (Linkable Information) และสาม-ข้อมูลที่ยืนยันตัวตนไม่ได้ (Non-PII) หรือ Anonymous หลายธุรกิจที่มีเว็บไซต์และทำการตลาดออนไลน์ อาจจะคุ้นกันดีกับ Google Analytics, Facebook Pixel […]
พิสิฐ เหลี่ยมมุกดา
March 4, 2021เชียงใหม่: ฝุ่น รัฐราชการรวมศูนย์ กับเมืองที่เป็นได้แค่สถานที่ท่องเที่ยวช่วงเทศกาล
ช่วงปลายหนาวต้นร้อนของทุกปีสำหรับภาคเหนือ คือช่วงเวลาที่ชาวภาคเหนือต้องประสบกับภัยพิบัติด้านมลพิษอันมาจากฝุ่น PM 2.5 มาตลอด 10 กว่าปี ในบางปีค่าฝุ่นนั้นติดอันดับสูงที่สุดในโลก แต่เหตุใดจึงไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวของในการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืนเสียที? มากไปกว่านั้น ทำไมกรุงเทพฯ ก็ประสบปัญหาฝุ่น PM 2.5 เช่นกัน แถมออกข่าวเป็นเดือนๆ แต่ภาคเหนือและเชียงใหม่ที่มีฝุ่นทุกปีกลับมีพื้นที่สื่อน้อยมากเสียจนไม่ได้อยู่ในความทรงจำของชาวกรุงเทพฯ หากเทียบกับสถานะของเชียงใหม่ในฐานะเมืองท่องเที่ยว ผู้เขียนจะขออภิปรายสถานการณ์นี้ด้วยการวิพากษ์รัฐราชการรวมศูนย์ (Centralization) ซึ่งเป็นระบบบริหารราชการแผ่นดินของไทยว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 และเกี่ยวข้องกับความทรงจำของชาวกรุงเทพฯ ที่มีต่อเชียงใหม่ที่ถูกทำให้เป็นแค่สถานที่ท่องเที่ยวตามเทศกาลเท่านั้น แต่เหตุใดจึงไม่มีความทรงจำที่เกี่ยวกับประเด็นอื่น ๆ หากพูดถึงเชียงใหม่ ซึ่งเป็นอารมณ์เดียวกันกับตอนเด็ก ๆ ที่ครูสั่งให้เราวาดรูปบ้านนอกหรือชนบทในจินตนาการของเรา เราก็จะนึกออกแค่ “ภาพกระท่อมปลายนาตัดด้วยทิวทัศน์ภูเขาและดวงอาทิตย์” เพียงเท่านั้น เช่นเดียวกับเชียงใหม่ในสายตาคนกรุงเทพฯ ที่นึกออกแค่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลหรือช่วงปลายฝนต้นหนาวเพียงเท่านั้น ในฐานะที่ผมเป็นคนภาคกลาง พื้นเพมาจากจังหวัดในเขตปริมณฑล ก็คงมีความทรงจำเกี่ยวกับเชียงใหม่และภาคเหนือไม่ต่างจากคนกรุงเทพฯ สักเท่าไหร่ เพียงแต่ความคิดของผมในการมองประเทศไทยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากมาอาศัยอยู่เชียงใหม่ ความคิดนั้นคือ “ประเทศไทย ≠ ประเทศกรุงเทพฯ” รัฐราชการรวมศูนย์ อาณานิคมภายใน กับความล้มเหลวในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข รัฐราชการรวมศูนย์ (Centralization) คือระบบบริหารราชการแผ่นดินที่ยึดหลักการตัดสินใจอยู่ที่ส่วนกลางเป็นหลัก มีระบบการบริหารแบบสายการบังคับบัญชา (Hierarchy) […]