มังสวิรัติคงเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่หลายคนรู้จัก วันนี้เราจึงจะพาริบบิ้น-นิชาภา นิศาบดี เจ้าของร้าน SAMATA Plant-based Food & Lifestyle for All บ้านเล็กๆ ที่แบ่งเปิดเป็นร้านอาหารพร้อมต้อนรับนักชิมจากทั่วทุกพื้นที่ พร้อมทั้งเสียงดนตรีที่คอยเล่นไปพร้อมกับบรรยากาศร้านแสนเรียบง่าย มาทำความรู้จักริบบิ้นกันดีกว่า!ริบบิ้นจบจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาการสื่อสารมวลชน หลังเรียนจบได้มีโอกาสให้ไปทำงานด้านสื่อที่ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ระยะเวลาประมาณสองเดือน พอกลับมาอยู่ประเทศไทยยังคงรับงานฟรีแลนซ์ด้านสื่ออีกเช่นเคย พิธีกรรายการ Daisuki Japan เป็นหนึ่งในงานที่เธอทำจนได้รับข้อเสนอให้ย้ายมาทำงานเชียงใหม่ และงานนี้ได้พาเธอไปรู้จักกับแขกรับเชิญเป็นนักวีแกนอย่างนายูตะ ศิลปินชาวโอกินาว่า ซึ่งเธอต้องเก็บข้อมูลของแขกท่านนี้ จนเธอสงสัยว่าอาหารกลุ่มนี้มันดีต่อร่างกายอย่างไร ดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร และรับรู้ถึงความแปลกใหม่ของโลกวีแกน มังสวิรัติ ทั้งหมดนี้เกิดเป็นข้อสงสัยข้างต้น เธอต้องการหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ จึงทำให้เริ่มการหาประสบการณ์ด้วยการออกไปหา และชิมอาหารมังสวิรัติในเชียงใหม่ เมื่อเธอเลือกเป็นมังสวิรัติริบบิ้นได้ลองทานอาหารมังสวิรัติ วีแกน มาทั่วเชียงใหม่แล้ว เนื่องจากอาหารกลุ่มนี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย ส่วนมากเป็นบทความภาษาอังกฤษ ร้านที่ราคาจับต้องได้สามารถทานได้ทุกวัน เพราะการจำกัดการเข้าถึงเรื่องเหล่านี้ ทำให้มีคนอีกจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงทำให้เธออยากทำอาหารให้คนทั่วไปได้ลองเปิดใจมาชิมกัน จุดประสงค์ที่สำคัญคือ อยากให้ทุกคนมองว่าอาหารมังสวิรัติ วีแกน เป็นอาหารปกติ ไม่กลัวสิ่งนี้เหมือนอย่างที่ผ่านมา ส่วนปัญหาภายในร่างกายเมื่อเริ่มลดการกินเนื้อ นมวัว ไข่ แล้วนั้น ช่วงระหว่างที่ร่างกายปรับตัวคงเป็นสิ่งที่ทรมานที่สุด แต่สุดท้ายก็ผ่านมันมาได้ เพราะมีการทดแทนสิ่งที่ขาดให้ไป สมถะเกิดขึ้นมาได้อย่างไรจากปัญหาที่กล่าวมานั้น เมื่อริบบิ้นพบช่องว่าง และความต้องการที่จะเผยแพร่สู่คนทั่วไป จึงทำให้ริเริ่มสร้างร้านอาหารสมถะขึ้นมาช่วงระยะแรกนั้น แกงกะหรี่ พร้อมเครื่องเคียง 12 อย่าง เป็นเมนูเดียวที่ทำขาย จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มเมนูหลากหลายรูปแบบเพื่อต้อนรับเหล่านักชิมทุกท่าน สิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นสมถะการเตรียมวัตถุดิบ เป็นอย่างเดียวที่ริบบิ้นคิดว่ายากที่สุด เพราะเธอต้องการให้อาหารมีราคาที่สามารถจับต้องได้ ดังนั้นเราต้องเลือกของราคาดี และคุณภาพดีเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะทำการบ้านเรื่องราคา ปริมาณ สต๊อกสินค้า มาดีแค่ไหนก็ตาม ปัญหาภายนอกเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจัดการได้เช่น ฝนตก น้ำท่วม หอยทากกัดใบ ทำให้ผัก ผลไม้เสียหาย ก็ต้องหาวิธีอื่นเพื่อนำผัก ผลไม้ เหล่านี้มาประกอบอาหารได้อย่างเดิม ทุกวันนี้ปัญหานี้ก็ยังคงมีเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้เธอเองคิดว่ามันคงเป็นแบบนี้อีกต่อไปอย่างแน่นอน กลุ่มลูกค้าเป็นแบบไหนบ้างริบบิ้นขอแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่คือชาวต่างชาติ และคนไทย ส่วนความแตกต่างของทั้งสองจะเป็นเรื่องของเหตุผลที่มาเยือนสมถะ ซึ่งชาวต่างชาตินั้นสามารถแบ่งง่าย ๆ เป็นกลุ่มคนที่กินมังสวิรัติอยู่แล้ว และไม่เคยกิน ขณะเดียวกันนั้นคนไทยมีหลายเหตุผลเช่น ดู Netfilx, กินคลีน, วันเกิด, ทำบุญ, ทำโปรเจกต์, สงสัยอะไรบางอย่าง และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากทำอาหารแล้ว ยังมีอาชีพอื่นอีกไหม“นักดนตรีค่ะ” ริบบิ้นเริ่มเล่นจากดนตรีไทยเมื่ออายุ 7 ขวบ และเริ่มเล่นกีตาร์ช่วงอายุ 13 ปี เพียงแค่อยากเล่นจีบหนุ่มที่โรงเรียนแค่นั้น (หัวเราะ) จนได้เริ่มตั้งวงแบนด์ช่วงมัธยมปลาย และเข้าร่วมการประกวดในรายการ The Voice Thailand เมื่อปี 2012 แต่เธอพบว่าตนเองไม่ชอบสักเท่าไหร่ จึงหันมาเริ่มรับงานร้องเพลงตามบาร์ช่วงเย็น ตั้งแต่ปี 1-4 ทำให้มีรายได้จากตรงนี้ รวมถึงเธอเองมีความสุขกับการร้องเพลงอยู่เช่นเคย จากการย้ายงานมาเชียงใหม่ทำให้เธออยากกลับมาเล่นดนตรีอีกครั้ง เพราะเห็นพื้นที่ว่างในการสร้างสรรค์งานศิลปะ ดนตรีขึ้นมา ปัจจุบันยังคงรับงานเล่นดนตรีตามสถานที่ต่าง ๆ โดยจะแบ่งเวลาเพื่อไม่ให้งานร้านสมถะ และดนตรีมาเบียดกันเอง เคยท้อกับอะไรบ้างไหมจากที่อ่านมาคงเริ่มสงสัยว่าริบบิ้นมีเรื่องทุกข์ใจบ้างไหม บอกเลยว่ามีอย่างแน่นอน เมื่อเจอปัญหาไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านการเตรียมวัตถุดิบของร้านสมถะ หรือการซ้อมดนตรี เพราะเธอหวังว่าจะสามารถเติมเต็มสิ่งที่ทุกคนคาดหวังได้เสมอ ดังนั้นบางครั้งเธอจึงท้อกับเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะเรื่องวินัย สร้างกำลังใจให้กับตนเองอย่างไร“การมีชีวิตที่เพอร์เฟกต์คงเป็นไปไม่ได้ หากเป็นความสมบูรณ์ในแบบที่ตนเองเป็น เราสามารถทำได้” ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนเฉกเช่นทุกวันนี้ริบบิ้นไม่เคยคิดว่าชีวิตตอนนี้เป็นจุดอิ่มตัว เธอคาดหวังไว้ว่ามันคงเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่สามารถไว้วางใจได้เพราะเราไม่เห็นปลายทางของเรื่องราวทั้งหมดได้ บางครั้งอาหารของเรากลายเป็นมื้ออาหารที่มีคุณค่า เป็นที่เยียวยาของลูกค้าหลายกลุ่มเช่น คนที่เป็นโรคมะเร็ง เขาต้องการอาหารที่มีประโยชน์ที่สุด อาหารมังสวิรัติคือสิ่งที่เขาตามหา หรือคนที่กินเปรี้ยวไม่ได้แล้วในชีวิต อาหารของสมถะสามารถช่วยเป็นมื้ออาหารที่อร่อยได้ กลุ่มผู้ฟังที่ได้ยินเสียงเธอแล้วได้รับการเยียวยาจิตใจไปขณะที่ริบบิ้นร้องเพลงที่ชอบ โดยส่วนตัวแล้วริบบิ้นใช้ความสุขเล็ก ๆ ตรงนี้มาเป็นแรงผลักดันให้เธอใช้ชีวิตอีกต่อไป สุดท้ายนี้, ถึงคนที่ยังลังเลในการตัดสินใจบางอย่าง“ทำอะไร ไม่มีผิดทั้งนั้น” ไม่ว่าเราจะได้ทำ หรือไม่ทำในสิ่งที่เรียนมา สิ่งที่บ้านคาดหวัง สังคมคาดหวัง ทำตามที่ใจต้องการ อยากให้รู้ไว้ว่าไม่มีผิดอย่างแน่นอน และสุดท้ายแล้วเราจะนำสิ่งที่เรียนรู้ทุกศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เราเลือกได้อย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าคิดจะทำแล้ว ให้ลงมือทำเลย |
Related Posts
เบื้องหลังการเข้าสู่เมืองใหญ่ของ Chez Nous in Town ครัวซองต์พันชั้นกรอบๆ อุ่นๆ สูตรฝรั่งเศสแท้
เราเชื่อว่าทุกวันนี้หน้าฟีดของทุกคนต้องมีภาพครัวซองต์พันชั้นของ Chez Nous Artisan Baking Atelier หรือต้องเคยลองชิมด้วยตัวเองบ้างไม่มากก็น้อย กว่า 4 ปีที่ร้านขนมอบเล็กๆ ในตำบลสันกลาง อำเภอสันกำแพงเปิดให้บริการ ด้วยครัวซองต์ซึ่งเป็นขนมอบสุดคราฟต์ที่ใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต และการพัฒนาเมนูใหม่ๆ ที่หลากหลายทั้งขนมอบ อาหาร และเครื่องดื่ม ทำให้ครัวซองต์ของที่นี่ทั้งอร่อยและสนุกด้วยการผสมและทวิสต์รสชาติที่หลากหลายมากๆ ซึ่งที่โดดเด่นจนกลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลก็คืออั่วซองต์หรือครัวซองต์ไส้อั่วที่ขายในเวลาจำกัด เพราะชาวกองฯ เคยซื้อครัวซองต์พันชั้นมาแบ่งกันกินแล้วก็ติดอกติดใจในรสชาติ จนอยากรู้เบื้องหลังที่กว่าจะเป็นครัวซองต์ที่ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ Behind The Scene จึงต่อสายนัดหมายไหม-ปิยะกมล วาณิชย์มงคล จนเธอรับนัดและพาเรามาเปิดเตาเบื้องหลังสาขาใหม่ล่าสุดอย่าง Chez Nous in Town ในโครงการ MOREspace มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Chez Nous ใกล้ชิดกับคนเชียงใหม่มากขึ้นเพราะอยู่ใจกลางเมืองที่มีทั้งนักศึกษา นักท่องเที่ยว และชาวเชียงใหม่มากกว่าเดิม เสน่ห์ของ Chez Nous ที่เราเห็นจากการนั่งคุยกับไหมตลอดบทสัมภาษณ์นี้ มันไม่ได้มีแค่ความตั้งใจอยากเสิร์ฟของดีให้กับลูกค้า การพัฒนาสูตร ความเป๊ะในการทำขนมอบที่จะผิดพลาดไม่ได้เลย แต่มันคือความตั้งใจและการตัดสินใจที่จะทิ้งสิ่งที่รักสิ่งหนึ่ง เพื่อมาทำสิ่งที่รักอีกสิ่งหนึ่ง และลงหลักปักฐานกับมันอย่างเต็มที่ จน Chez Nous กลายเป็นครัวซองต์ที่ทุกคนรักและต้องลองชิมสักครั้ง […]
สุรพันธ์ แสงสุวรรณ์
July 2, 2021นิทานบ้านต้นไม้: คาเฟ่เล็กๆ ในพะเยาที่รวมผู้คน-สังคม-ธรรมชาติ ไว้อย่างเรียบง่ายและอบอุ่น
ยามบ่ายของวันศุกร์ในวันที่แดดสดใส ณ ร้านแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยร่มไม้ เราได้นัดสัมภาษณ์ผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของร้านที่ร่มรื่นและอบอุ่นแห่งนี้ดังชื่อนิทานบ้านต้นไม้ ที่มีแตง-บงกช กาญจนรัตนากร คอยดูแลอยู่ในฐานะเจ้าของร้าน ร้านแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงร้านกาแฟหรือคาเฟ่ที่คอยเสิร์ฟเครื่องดื่มและขนมให้แก่ลูกค้าที่วนเวียนมาเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ถูกจัดขึ้นอย่างอบอุ่นในทุกฤดูกาล เรามาฟังกันวิธีคิดที่เธอทำยังไงให้ร้านแห่งนี้ไม่เพียงแต่ให้ผู้คนได้มีช่วงเวลาดีดีเพียงเท่านั้น แต่ยังมอบความอบอุ่นใจให้กับผู้คนที่มาร่วมกิจกรรม และยังทำให้จังหวัดเล็กๆ อย่างพะเยามีชีวิตขึ้นได้จากความอบอุ่นเหล่านี้ นิทานบ้านต้นไม้ อยากให้คุณแนะนำนิทานบ้านต้นไม้ให้เรารู้จักหน่อย เราเป็นโฮมคาเฟ่เล็กๆ ขายกาแฟ ขนม ไอศกรีมโฮมเมดที่ฝันอยากจะเป็นพื้นที่ในการสื่อสารแนวความคิด และสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นที่เราสนใจ หรือมีความเชื่อมโยงกับชุมชนหรือสังคม ชื่อร้านมีคำว่านิทาน เพราะนิทานมันเหมือนเป็นตัวแทนของเมสเสจทางความคิดที่เราอยากจะสื่อสาร และคำว่านิทานบ้านต้นไม้ ก็ตรงตัวเลย อยากจะสื่อสารเกี่ยวกับคุณค่าของสิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา คือ ครอบครัว และธรรมชาติรอบตัว ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็มาจากแนวคิดของเราที่เชื่อว่าทุกอย่างมีคุณค่าในตัวเอง แต่ประเด็นที่เราจะโฟกัสเป็นพิเศษก็คือ เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติ และระหว่างคนกับสังคม ซึ่งสังคมที่ใกล้ตัวเราที่สุดก็คือครอบครัว เลยใช้คำว่าบ้านมาแทนคุณค่าของครอบครัว แล้วให้ต้นไม้เป็นตัวแทนของธรรมชาติ เราก็จะโฟกัสอยู่สองประเด็นนี้เป็นหลักในตอนเริ่มต้น แต่ทำไปทำมามันก็เริ่มแตกแขนง หลังจากนั้นก็มีการทำอีเวนต์ ทั้งข้างในและข้างนอก ก็ทำให้เราค่อยๆ ได้สื่อสารในสิ่งที่เราอยากจะทำมากขึ้น จากเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเรามากๆ ก็เริ่มขยายออกไปในสิ่งที่กว้างมากขึ้น แต่คอนเซ็ปต์หลักนั้นเหมือนเดิม ก็คืออยากจะทำให้ทุกคนเห็นว่าทุกอย่างมีคุณค่าในตัวของมันเอง ในความเชื่อว่าทุกอย่างมีคุณค่าในตัวของมันเอง มีมาตั้งเริ่มต้น แล้วทำไมคุณถึงค่อยๆ เริ่มต่อยอดและสร้างกิจกรรมขึ้น? ใช่ แต่พอเวลาผ่านไปมันก็ค่อยๆ ชัดเจนมากขึ้น […]
ปวรปรัชญ์ จันทร์สุภาเสน
February 26, 2021ชีวิตชีวา: ต้นตำรับบิงซูจากเชียงใหม่ที่ทานได้ไม่มีเบื่อ
ชีวิตชีวา คือร้านคาเฟ่ขนมหวานอันดับหนึ่งของเชียงใหม่ คำพูดนี้ไม่ได้เกินเลยเมื่อวัดจากการเติบโตของร้านในเวลา 4 ปี ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่รวดเร็วอย่างมากสำหรับร้านค้าเล็กๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งการขยายสาขาในตัวเมืองเชียงใหม่ทั้ง 3 สาขา หรือการเปิดหน้าร้านในจังหวัดพิษณุโลก หรือกรุงเทพมหานครในย่านใจกลางเมือง และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึงขีดสุดคือ การเปิดสาขาในต่างประเทศครั้งแรกที่ไทเป, ไต้หวัน ดาวเด่นของร้านคาเฟ่ขนมหวานเล็กๆ ร้านนี้คือ น้ำแข็งไสเกาหลีหรือบิงซู ที่กลายเป็นเมนูเอกลักษณ์อันเป็นลายเซ็นที่โดดเด่นของร้าน รวมถึงขนมหวานและเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบ ในบรรยากาศโทนร้านสีขาว และการตกแต่งร้านสบายๆ ในแบบมินิมอล ฉันพบแพร-กันติชา สมศักดิ์ เจ้าของร้านชีวิตชีวาในบรรยากาศสบายๆ ของร้านในช่วงสายวันอาทิตย์ เธอนำ Cheeva Paradise หนึ่งในเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านที่มีความเปรี้ยวหวานอย่างพอเหมาะพอดีให้ฉันลองชิม เครื่องดื่มหมดแก้ว-ก่อนฉันจะชิมขนมหวาน เรามาลองฟังสูตรลับของคุณแพร และ Secret Ingredients สำคัญ ที่ทำให้ชีวิตชีวาคือร้านคาเฟ่ขนมหวานที่กลายเป็นที่รักของนักทานขนมหวานทั้งในระดับจังหวัด และระดับประเทศ มือใหม่ในวงการขนม แพรเป็นหนึ่งในสามพี่น้องทายาทของชีวาสปา กิจการสปาของครอบครัว ด้วยฐานะลูกคนโตที่เพิ่งจบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เธอจึงถูกทาบทามจากคุณแม่ให้รับช่วงต่อในการดูแลกิจการสปาของที่บ้าน แต่ติดอยู่ที่ว่าเธออยากลองทำตามความฝันของตัวเอง ด้วยการเป็นเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ เธอจึงเริ่มต้นความฝันของเธอด้วยการเริ่มธุรกิจขนมอบ “ด้วยความที่เราช่วยงานที่บ้านมาเรื่อยๆ ตั้งแต่สมัยเรียน ม.3 เรารู้สึกว่าเราชอบงานบริการนะ แต่เราไม่ชอบที่จะต้องมาทำสปาหรืออะไรที่รักสวยรักงาม ก็เลยลองไปหัดเรียนขนม […]